ผีเด็กสาวที่จอดรถ

ผีเด็กสาวที่จอดรถ


พอจบจากมหาลัย ปุปผมก็โชคดีได้งานเป็น sale ขายเครื่องถ่ายเอกสารยี่ห้อหนึ่ง แต่ผมต้องวิ่งปริมลฑน ซะส่วนมาก มีงานนึ่งผมไปเสนอที่โรงงานผลิตเม็ดโฟม แถวสมุทรปราการ พอขับรถเข้าไปที่ จอดรถก็จะมีเส้นสีขาวตีเป็นช่องจอดรถอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย แต่มีอยู่ช่องนึงมันเตะตาผมมาก เพราะตรงปูนที่กันล้อเขาเอาสีแดงมาทา แค่ช่องเดียว จากที่จอดรถ 20 คัน ผมไม่ลังเลที่จะพุ่งเข้าไปจอดช่องนั้น
(ตอนนั้นที่จอดรถว่างทุกช่อง) ด้วยความที่ผมไปสายและขี้เกลียดเลือกช่องบวกกับสีแดงนั้นมันเตะตาผมจริงๆ พอผมจอดรถเสร็จผมยังไม่ดับเครื่องเพราะผมยังไม่ได้ผูกเน็คไท ระหว่างที่ผมผูกเน็คไทอยู่นั้น สายตาผมก็มองหายาม เพราะผมมั่นใจว่าต้องมียามมาไล่ผมไปจอดที่อื่นแน่ๆ เพราะมันมีสีแดงอยู่ช่องเดียวคงแบบที่จอดนายห้ามจอดไรงี้ แล้วผมก็ได้ยินเสียงเคาะกระจกรถจากทางซ้ายมือผม 2 ที ก๊อกๆ ผมรีบหันไปดูพร้อมพูดว่า ขอผูกแปปเดียวย้ายให้ แต่ผมไม่เห็นไครเลย ผมมองหารอบรถก็ไม่เจอ (ที่จอดรถนั้นเป็นลานกว้างมากต้องวิ่งไวมากๆถึงจะหลบสายตาผมทัน) แต่ผมยังไม่คิดอะไรสงสัยหูฝาด ผมก็มองกระจกหลังผูกเน็คไทต่อ แล้วก็มีเสียงเคาะกระจกจาก กระจกหลัง 2ที ก๊อกๆ ซึงผมกำลังมองกระจกหลังเพื่อผูกเน็คไทอยู่และผมไม่เห็นไครเลยอยู่ข้างหลัง ผมเริ่มเอะใจ แต่เอ๊ะ หรือเสียงวิทยุ ผมเลยปิดวิทยุแล้วก็นั่งรอตั้งใจฟัง (เน็คไทช่างมันลูกค้าช่างมันก่อนแล้วตอนนี้) ทุกอย่างเงียบ สงบ และก็มีเสียงเคาะ . . . ก๊อก ที่กระจกทางขวาฝั่งคนขับที่ผมนั่งอยู่ ผมรีบหันไปอย่างรวดเร็วก็ไม่เจอไคร ผมชะโงกหน้าไปดูข้างๆ รถ ไม่แน่ๆ อาจนั่งอยู่ข้างๆรถ ก็ไม่มี ครั้งนี้ผมมั่นใจและ โดนแล้วกุ แต่เอาวะเพื่อความชัว มันมารอบคันและเหลือแต่กระจกหน้า ผมตั้งหน้าตั้งตามองไปที่กระจกหน้าแบบไม่กระพริบตา และแล้วมันก็เกิดขึ้น . . . . ก๊อกๆ ที่กระจกหน้า ที่ผมตั้งตาเฝ้าดูอยู่ แบบคาหูคาตา ผมก็ถอนหายใจ โอเค กุมั่นใจและ แต่ว่า ผมนัดลูกค้าไว้ขอผูกไทให้เสร็จก่อนนะ ผมก็ผูกต่อจนเสร็จโดยที่ไม่มีเสียงรบกวน (สงสัยจะคุยกันรู้เรื่อง) แล้วผมก็ออกจากรถไป เข้าประชุม พอประชุมเสร็จผมก็ถามผู้จัดการว่า ทำไมที่จอดรถตรงนั้นถึงเป็นสีแดง ผู้จัดการก็บอกว่าผมก็ไม่ทราบมันเป็นมานานแล้ว ผมก็เล่าทุกอย่างให้ผู้จัดการฟัง ผู้จัดไม่เชื่อครับ 55 ผมบอกเขาอีกว่าถ้าให้ผมเดาผมรู้สึกได้ว่าเป็นเด็กผู้หญิง อายุประมาณ 8 ขวบ แล้วผมก็ ลาเขากลับ ขึ้นรถแล้วก็ขับรถออกไป ขณะที่รถออกจากประตูโรงงาน รถผมก็ ขย่ม แบบที่เรียกว่าขึ้นสุดลงสุดทั้งๆที่ถนนก็ไม่มีหลุมตอนขามาก็ไม่ขย่มเลย ผมรีบจอดรถ แต่ . . . รถก็ยังขย่มอยู่ มันขย่มแรงมากเหมือนมีไครไปยืนกระโดดอยู่บนหลังคา ด้วยความที่รถผมเพิ่งซื้อและมันโยกแรงเหมือนรถจะพัง ผมตะโกนไปสุดเสีย เมิงจะขย่มทำเฮีย อะไรเดียวรถกุพัง ลงไปเดียวนี้ไม่งั้นกุแช่งเลย (ผมกลัว . . รถผมพังจริงๆ) สิ้นเสียงมันก็หยุด ผมก็ขับต่อ แต่ก็ยังโมโหอยู่บ่นตลอดทาง ถ้ารถกุพังนะๆ ไม่ถึงครึ่งชม ผู้จัดการคนนั้นโทรมาหาผม ด้วยเสียงตื่นเต้น ผมลองถามคนเก่าคนแก่แล้วเรื่องที่คุณ บอก เขาบอกว่า ตรงนั้น ประมาณตี 5 มีลูกคนงาน ไปเล่นแถวนั้นแล้วเจอรถสิบล้อขนของทับตายคาที่เพราะคนขับมองไม่เห็น และก็จะมีคนเห็นวิญญานน้องเขาเล่นอยู่ตรงนั้นประจำเลยทาสีแดงไว้ ผมก็บอกผู้จัดการไปว่า ผมเจอน้องเขาแล้วครับเล่นเอารถเกือบพัง เหอะๆ แต่น้องเขาไม่ผิดหลอกครับ ผมผิดเอง ที่ไปจอดตรงนั้น แล้วผมก็ผิดเองที่ไปเล่นกับน้องเขา ตอนน้องเขาเคาะกระจกแล้วผมมองหาผมเดาว่าเขาเล่นกับผมเล่นซ่อนหาละมั้ง ไม่ก็เล่น จ๊ะ . . . เอ๋ พอผมขับรถออก คงงอแง ไม่ยอมให้ผมกลับเลย ขย่มรถซะ - - ผมก็ด่าไปซะเยอะคงจ๋อยไปสักพักแหละครับ

Comments

Popular posts from this blog

ตำนานพ่อมดผู้ยิ่งใหญ่ เมอร์ลิน

Kelpies (เคลพี)

ปีศาจในตำนานเซลติค Questing Beast